เที่ยวเวียดนามด้วยตัวเอง

เที่ยวเวียดนามด้วยตัวเอง หนาวนี้..ใครยังคิดไม่ออกว่าจะไปไหนดีเรามีที่เที่ยวใกล้บ้านแต่ได้ความหนาวมานำเสนอนั่นก็คือเวียดนาม ในฤดูหนาวประมาณเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์อากาศจะดีมาก หยิบเสื้อกันหนาวน่ารักๆใส่ไปเที่ยวอีกสักตัว รวมถึงที่เที่ยวที่สวยงาม ทั้งบรรยากาศของบ้านเมืองที่มีเอกลักษณ์และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ หาเวลาพักผ่อนสั้นๆ เหลือเวลาเที่ยวอีกไม่กี่วัน อย่าใช้งบมาก เพราะค่าครองชีพไม่สูง เที่ยวแบบนี้ ก็สนุกดีนะครับ

เที่ยวเวียดนามด้วยตัวเอง รู้จักประเทศเวียดนาม

เที่ยวเวียดนามด้วยตัวเอง  เวียดนามเป็นอีกประเทศที่น่าสนใจและน่าเที่ยว คนไทยชอบไปเที่ยวเวียดนาม ก่อนไปเวียดนามก็เหมือนกับการไปเที่ยวประเทศอื่น ๆ สิ่งที่ต้องเตรียมตัวให้ดีไม่ว่าจะเป็นการศึกษาข้อมูลการเดินทางก่อน

เวียดนาม (Vietnam) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดกับจีน ลาว และกัมพูชาทางทิศเหนือ อ่าวตังเกี๋ยทางทิศตะวันตก และทะเลจีนใต้ทางทิศตะวันออก คำว่า “เวียด” ที่มาของชื่อเวียดนามมาจากภาษาจีน แปลว่า ไกล หรือ การเดินทาง

คำว่า “เวียด” หมายถึงประเทศที่ห่างไกลจากจีนและเลยกำแพงกั้น และ “นัม” หมายถึงทางใต้ จึงเป็นที่มาของชื่อเวียดนาม ดินแดนทางตอนใต้ของชาวเวียดนามหรือดินแดนที่มีชาวเวียดนามอาศัยอยู่

สกุลเงินและอาหารการกิน

ดอง (อังกฤษ: Dong, Vietnamese đồng) เป็นสกุลเงินเวียดนามที่ใช้ในเวียดนาม อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ VND 400-500 ต่อบาท หรือประมาณ VND 16,000 ต่อดอลลาร์สหรัฐ

รูปแบบที่ใช้มีทั้งเหรียญและธนบัตรเวียดนาม โดยมีค่าดังนี้

เหรียญจะมีราคา 200 VND, 500 VND, 1,000 VND, 2000 VND และ 5,000 VND แต่เหรียญจะไม่ค่อยได้ใช้ ซื้อไปก็ไม่มีใครใช้ จ่ายไม่มีใครรับ

ธนบัตรมีราคา VND 1,000, VND 2,000, VND 5,000, VND 10,000, VND 20,000, VND 50,000, VND 100,000, VND 200,000, VND 200,000 Vino ซื้อจ่ายตลาดมองหน้า ดังนั้นคุณต้องมีกลูเตนย่อยติดตัวไปด้วย เป็นแบ๊งค์เล็กๆ 100,000 ก็ดี

แม้ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวใช้เงินดอง สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป โรงแรมเวียดนาม ร้านอาหารเวียดนาม ร้านขายของที่ระลึก เรายังคงรับเงินสหรัฐฯ เราสามารถแลกเปลี่ยนเงินได้ สนามบินเวียดนามหรือธนาคาร โรงแรม และผู้แลกเงินที่ได้รับอนุญาต ร้านค้าเหล่านี้มีตัวอักษรสีทอง “Hieu Vang” และหรือเขียน ในชื่อ ” เฮียวคิมฮวน

มีตลาดสดมากมายในฮานอย สถานที่ที่คุณสามารถซื้อเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักและผลไม้สดได้ทุกวัน มีซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งที่คล้ายกับตลาดสดในประเทศไทย และ “ตลาดขนาดเล็ก” เหมือนในกรุงเทพฯ ที่คุณสามารถซื้อสินค้ากระป๋องและผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศได้ ส่วนประกอบของอาหารไทยส่วนใหญ่หาได้จากฮานอย หรือสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ (สิงคโปร์ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น) การบริโภคอาหารและน้ำดื่มในเวียดนามควรระมัดระวัง ซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดหรือกรองและต้มก่อนดื่ม การบริโภคผักและผลไม้ควรล้างให้สะอาดเสียก่อน

เที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)

สถานที่นี้สวยงามราวกับอยู่ใน พาราไดซ์วัลเล่ย์ วิธีเดียวที่จะเข้าไปข้างในได้คือการนั่งรถกระเช้าที่ยาวและสูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงกว่า 5,800 เมตร ไม่ต้องกลัว เพราะธรรมชาติและความงามของหุบเขาจะทำให้คุณยิ้มจนลืมความตื่นเต้นของการนั่งกระเช้าลอยฟ้า ภายในบานาฮิลส์ยังมีสวนสนุกสุดหรรษาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านฝรั่งเศสและสะพานขนาดใหญ่ที่รองรับด้วยสองมือยักษ์ ไฮไลท์เช่น Sky Bridge หรือ Golden Bridge เป็นสิ่งที่ต้องไปและลองสักครั้ง

ดานัง เป็นหมู่บ้านชาวประมงในอดีต เมืองท่าสำคัญในภาคกลางของเวียดนาม ที่นี่ ที่เที่ยวเวียดนาม กับสถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินในเวียดนามกลาง. เพราะที่นี่มีทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ หาดทรายขาว ที่มีชื่อเสียง และวิวเขาหินอ่อนที่สวยงาม งานเย็บปักถักร้อย สถานบันเทิงยามค่ำคืน อาหารริมทาง รวมถึงร้านอาหารทะเลที่สดและอร่อย ทำให้ดานังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

บรรยากาศของเมืองดานังเต็มไปด้วยผู้คน เรือบรรทุกสินค้าจอดเรียงรายริมน้ำโดยมีเรือประมงขนาดเล็กที่ชาวบ้านใช้จับปลา นอกจากนี้ ยังมีหาดหมีเคว (My Khe) หาดทรายขาวสวยงามพร้อมกีฬาทางน้ำมากมาย หรือเยี่ยมชมบานาฮิลส์เมืองท่องเที่ยวที่เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวฝรั่งเศสตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และได้รับการปรับปรุงเป็นเมืองท่องเที่ยวในปี 2552 ด้วยกระเช้าไฟฟ้าสูง 5,801 เมตร นานถึง 50 นาที และยังเป็นเมืองของโลก เคเบิลคาร์ที่ยาวที่สุด โลก.

คุณไม่ควรพลาดสะพานทองคำยาว 150 เมตร ซึ่งคุณสามารถมองเห็นมือหินขนาดใหญ่สองมือยื่นออกมาจากภูเขาที่ค้ำสะพานทองคำ สะพานซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองได้แบบพาโนรามา ตลอดจนภูมิทัศน์ทางธรรมชาติโดยรอบ

ฮอยอัน (Hoi An)

เมืองมรดกโลกที่สายท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมห้ามพลาดถ้าได้โอกาสไปเที่ยวเวียดนาม แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนกลางของประเทศแต่ฮอยอันยังคงรักษาเสน่ห์ในอาคารร้านรวงต่างๆ ที่มีมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15-19 ผสมผสานศิลปะไปจนถึงสถาปัตยกรรมของท้องถิ่นและจากต่างชาติไว้ได้เป็นอย่างดี จะเดินเท้าไปตามตรอกซอกซอยชอปปิง หรือเช่าจักรยานปั่นชิลล์ๆ เพื่อเสพบรรยากาศและงานศิลปะฮอยอันก็ตอบโจทย์

ฮอยอัน เป็นเมืองในจังหวัดกว๋างนาม เวียดนาม บรรยากาศและเสน่ห์ของเวียดนาม มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่จำนวนมากที่ยังหลงเหลืออยู่ ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณจะได้สนุกไปกับการสำรวจเมืองเก่า ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเวียดนาม จีน และญี่ปุ่น เนื่องจากเต็มไปด้วยชาวต่างชาติเพื่อการค้าและการตั้งถิ่นฐาน ช่วงเวลาสูงสุดของฮอยอันคือประมาณศตวรรษที่ 16 และ 17 ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ญี่ปุ่น แต่ก็มีชาวดัตช์และอินเดียจำนวนมากเช่นกัน

ฮอยอันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 1999 เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เมืองเก่าได้รักษามรดกอันน่าทึ่งไว้ในสภาพดั้งเดิม บ้านของพ่อค้าชาวญี่ปุ่นทั้งหลัง อาคารสไตล์จีน อาคารยุคอาณานิคมฝรั่งเศส และโกดังเก็บชาโบราณ นอกจากนี้ยังทาสีด้วยสีสันสดใส ประดับประดาด้วยโคมกระดาษเวียดนาม

แม้ว่าร้านค้าเก่าแก่หลายแห่งจะถูกดัดแปลงให้เป็นสถานที่สมัยใหม่ เช่น ร้านตัดเสื้อ หอศิลป์ ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหาร แต่เมืองนี้ก็ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์และบรรยากาศแบบเก่า ทุกคืนในย่านเมืองเก่า ไฟฟ้าจะดับและโคมไหมแบบดั้งเดิมจะแขวนไว้หน้าหน้าต่างร้านค้าทุกบาน โคมไฟหลากสีสันส่องสว่างไปตามท้องถนนและเปล่งประกายโรแมนติกเหนือแม่น้ำทูโบน

อ่าวฮาลอง (Ha Long Bay)

หรือที่เรียกว่าอ่าวฮาลอง เป็นส่วนหนึ่งของอ่าวตังเกี๋ยซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของฮานอย เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อ่าวที่มีแนวชายฝั่งยาวกว่า 120 กิโลเมตร มีเกาะหินปูนน้อยใหญ่เรียงรายกว่า 1,900 เกาะ น่าทึ่งและน่าสนใจมากที่ UNESCO ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เที่ยวเวียดนามโดยไม่ไปฮาลองเบย์ถือว่าพลาด

คำว่า ฮาลองเบย์ ในภาษาเวียดนาม หมายถึง อ่าวมังกรดำ น้ำ เป็นอ่าวในอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของเวียดนาม ตั้งอยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางทิศตะวันออกประมาณ 170 กิโลเมตร ใกล้ชายแดนจีน ความสวยงาม เกี่ยวข้องกับเกาะหินปูนสูงรูปร่างแปลกตา กลางผืนน้ำสีเขียวมรกตมีเกาะน้อยใหญ่กว่า 1,969 เกาะเรียงรายอยู่ บนยอดเกาะแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น เกาะหลายแห่งมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายใน กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งความงามและธรรมชาติที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกปี

อ่าวฮาลองเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีกแห่งในเวียดนาม ได้รับการรับรองจาก UNESCO ตั้งแต่ปี 1994เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมฮาลองเบย์คือเดือนพฤศจิกายน เป็นเดือนที่ฟ้าใส ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน อุณหภูมิจะเย็นสบายและน้ำทะเลก็สงบ พายุโซนร้อนสามารถพัฒนาโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ฤดูท่องเที่ยวในฮาลองมักจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนสิงหาคม เป็นจุดสูงสุดของการท่องเที่ยวในประเทศ

ฝนมักจะตกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน และหมอกอาจทำให้ทัศนวิสัยลดลง แม้จะช่วยเพิ่มบรรยากาศให้สวยงามและโรแมนติก บางครั้งเรือสำราญต้องเปลี่ยนเส้นทาง หรืออาจยกเลิกการเดินทางโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและทะเล โปรดตรวจสอบนโยบายการคืนสินค้าอย่างละเอียดหากคุณสั่งซื้อเรือ

ดาลัด (Da Lat)

ดาลัต เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ทางภาคใต้ตอนบนของประเทศเวียดนาม จุดเด่นคือเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงและโอบล้อมด้วยภูเขา ทะเลสาบ น้ำตก และป่าไม้ ทำให้ดาลัดเป็นเมืองที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยเพียง 17 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี และด้วยสภาพอากาศที่ดีและสภาพแวดล้อมที่สวยงาม ดาลัดจึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิที่โรแมนติกที่สุดในเวียดนามใต้ ” The Paris of Vietnam

ในดาลัด คุณจะพบกับเมืองที่มีเสน่ห์ซึ่งเต็มไปด้วยวิลลาสไตล์โคโลเนียลฝรั่งเศส รถม้าลาก และหอวิทยุรูปทรงหอไอเฟล และหุบเขาแห่งความรักที่สวยงามประดับประดาด้วยประติมากรรมรูปหัวใจ รอบ ๆ เมืองรายล้อมด้วยไร่กาแฟ สตรอว์เบอร์รี และดอกไม้สวยงาม แลนด์มาร์คที่สำคัญอีกแห่งของดาลัดคือโดฮา คาเฟ่ คาเฟ่ที่มีลักษณะคล้ายดอกอาติโช๊คซึ่งเป็นดอกไม้เมืองหนาวที่เติบโตในดาลัด อากาศหนาวเย็นและอากาศบนภูเขาที่มีหมอกปกคลุมทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง และคุณสามารถไปปั่นจักรยานเสือภูเขา ล่องแก่ง และล่องแพในภูเขาที่อยู่รายรอบ

ดาลัดเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บรรยากาศของเมืองนี้โรแมนติก จนได้ฉายาว่า ” สวิสเซอร์แลนด์แห่งเวียดนาม ” ตัวอาคารออกแบบสไตล์ยุโรป มีแม่น้ำอยู่กลางเมือง ทุ่งดอกไม้หลากสีสัน น้ำตก ลานศิลปะ ฯลฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ได้แก่ ทั้งหมดนี้รับประกันวิวของยุโรป เสื้อผ้ากันหนาวควรพร้อม เพื่อการถ่ายรูปที่เก๋ไก๋มีสไตล์

อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง (Phong Nha-Ke Bang National Park)

ไฮไลท์ที่สามของการมาเยือนเวียดนามของคุณคือการปักหมุดถ้ำเซินด่อง ถ้ำโบราณที่เกิดจากกระแสน้ำกัดเซาะชั้นหินปูนใต้ภูเขาสูง กลายเป็นสภาพแวดล้อมที่น่าทึ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น เรื่องราวที่สวยงามจนต้องเดินทางไปดูสักครั้งในชีวิต แม้จะซ่อนตัวอยู่ในหุบเขานานกว่า 2-5 ล้านปี แต่ก็มีการสำรวจเพียง 30% และยังคงรอการค้นพบจากนักผจญภัย แต่เปิดตลอดเดือน. ตั้งแต่มกราคม-สิงหาคม ปีหนึ่งรับเพียง 500 คนเท่านั้น ควรวางแผนให้ดีเพราะงานนี้คนจองตลอดปีแน่นอน

อุทยานแห่งชาติฟองญา-เคบ่าง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประกอบด้วยภูเขาหินปูนที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย มีอายุระหว่าง 400 ถึง 450 ล้านปี มีแม่น้ำใต้ดิน สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีถ้ำกว้างขวางและป่าที่ยังไม่ถูกทำลาย คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ได้มากมาย ไปเดินป่า ขี่จักรยาน แบกเป้ หรือแค่พักผ่อนในภูมิภาคที่สวยงามและน่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม

เป็นที่ตั้งของ ถ้ำ Hang Son Doong ซึ่งถูกค้นพบในช่วงต้นทศวรรษ 1990 และได้รับการยืนยันว่าเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2009 ความยาวของถ้ำมากกว่า 5 กิโลเมตร ความสูง 200 เมตร ความกว้าง 150 เมตร และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุด นักเดินทางผจญภัย

เดือนที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างคือเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม เป็นเวลาที่อากาศกำลังสบาย ฝนตกน้อย ฝนไม่ตกตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ แต่อากาศเย็นมาก เดือน มิ.ย.-ส.ค.เป็นช่วงที่ร้อนที่สุด ควรหลีกเลี่ยงเดือนสิงหาคมและธันวาคมเนื่องจากฝนตกหนักและน้ำท่วม

ญาจาง (Nha Trang)

เมืองญาจาง ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลจีนใต้ แห่งแรกในเวียดนามตอนใต้เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรจามปา เป็นอาณาจักรที่ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 2 โดยมีอาณาเขตของอาณาจักรจามปาครอบคลุมเวียดนามกลางและเวียดนามใต้ตามแนวชายฝั่งทะเลจีนใต้และรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 9 และ 10 อีกหนึ่งสัญญาณว่าญาจางเป็นอาณาจักรโบราณคือ Po Nagar Cham Towers ซึ่งผสมผสานศิลปะเขมรและฮินดู เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7-12

ปัจจุบันญาจางเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว หาดวงเดือนที่กว้างและสะอาดโดยมีภูเขาเป็นฉากหลังและอ่าวสีฟ้าครามสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่รองรับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ วัดวาอาราม ตลอดจนสวนสนุกขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีค่าครองชีพที่ถูก ครบครันด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เมืองนี้มีสนามบินอยู่ใกล้ๆ เป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจว่าทำไม Nha Trang จึงเป็นรีสอร์ทริมชายหาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเวียดนาม

ปิดทริปเวียดนามด้วยตัวเองอย่างสวยงาม กับเมืองตากอากาศริมชายฝั่งที่เป็นมากกว่าชายหาด เพราะทุกวันนี้ ญาจาง ถูกสร้างขึ้นให้มีชีวิตและเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆ เขาชอบความหนาวเย็นเพราะที่นี่เต็มไปด้วยร้านกาแฟริมชายหาด เพลิดเพลินกับร้านอาหารหลากหลายหรือเดินเล่นบนผืนทรายที่ผ่อนคลายไม่แพ้กัน ใกล้ๆ กันคือปราสาทแห่งอาณาจักรจามที่คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะโบราณ ไปจนถึงสวนสนุกขนาดใหญ่ให้หวาดเสียว ที่สำคัญ มีค่าที่พักใกล้บ้านเราและสามารถต่อรถเมล์ได้ น่าเที่ยวเพราะไกลจากไทยนิดเดียว เดินทางง่าย บินตรงสู่สนามบินนานาชาติกามรัญ และให้รถวิ่งต่อไปอีกประมาณ 30 นาที

ที่เที่ยวเวียดนามยังมีอีกเยอะ แค่เปิดใจ แล้วออกไปใช้ชีวิต นักท่องเที่ยวชาวไทยต้องขอวีซ่าเพื่อพำนักในเวียดนามมากกว่า 30 วัน เพิ่มแผนประกันการเดินทางของสถานทูตจาก Cigna เพื่อความคุ้มครองที่เหนือกว่า รับประกันว่าใช้ยื่นขอวีซ่าได้อย่างมั่นใจ ไม่ผ่านคืนเงิน 100% และถ้าคุณเป็นนักเดินทางตัวยงที่ขึ้นเครื่องบินกะทันหันบ่อยๆ แนะนำให้เลือกแผนการเดินทางรายปีที่ครอบคลุม 180 วันต่อเที่ยว ไม่มีการซื้อครั้งเดียวและไม่มีการทำธุรกรรมบ่อย ตอบคำถามการเดินทางทันที ทริปนี้ ทริปไหนมักง่าย?

ทะเลทรายมุยเน่ (Muine)

เที่ยวเวียดนามด้วยตัวเอง  ทรายทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ที่ด้านบนสุดของรายการด้วยเฉดสีมากกว่า 18 เฉดสี จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลทรายในเอเชียอาคเนย์มีเสน่ห์ที่สุดในยามที่พระอาทิตย์กำลังตกดินและผืนทรายเป็นคลื่นอย่างชัดเจน และด้วยเอกลักษณ์นี้เองทำให้มุยเน่กลายเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมที่ต้องแวะถ่ายรูปเก๋ๆ ถ้าไปเวียดนามคนเดียวสักครั้งให้บันทึกไว้ในอัลบั้ม

มุยเน่ เป็นเมืองชายฝั่งในจังหวัดบินห์ถ่วนทางตอนใต้ของเวียดนาม เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมแห่งหนึ่งของชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ พิกัดเด็ดที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงที่เที่ยวไม่เยอะเท่าเมืองใหญ่แต่ธรรมชาติที่เที่ยวก็สวยไม่แพ้เมืองอื่น ใครกำลังวางแผนไปเที่ยวเวียดนาม หมายมุยเน่อยู่ในรายการ รับรองไม่ผิดหวัง

ไฮไลท์ของมุยเน่คือเนินทรายที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนินทรายเป็นเกราะป้องกันพายุและการกัดเซาะของชายหาด และเป็นที่อยู่ของพืชและสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ทำให้เกิดความหลากหลายทางธรรมชาติ เนินทรายในมุยเน่มีทั้งหมด 18 เฉดสีที่แตกต่างกัน เนินทรายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวคือ White Sand Dunes ซึ่งทอดยาวสุดลูกหูลูกตา และจะสวยงามเป็นพิเศษในยามพระอาทิตย์ขึ้น และเนินทรายสีแดงซึ่งเป็นกลุ่มเนินทรายสีทองแดงที่ส่องแสงระยิบระยับในยามพระอาทิตย์ตกดิน

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Fairy Stream ที่เกิดจากภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ที่ถูกน้ำและลมกัดเซาะ ยาวกว่า 20 เมตร จนกลายเป็นหินที่ไล่ระดับแสงเข้มสวยงาม มีลำธารไหลผ่าน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมาเดินเล่นริมแม่น้ำที่นี่ ดังนั้นต้องเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม

บทความ

รีวิวเที่ยวฟองญา ชมเมืองป่าเขามรดกโลก

รีวิวเที่ยวฟองญา ยินดีต้อนรับการกลับมานะคุณผู้อ่าน ขวัญใจทุกคน รวมถึงเพื่อนๆ ที่รักการท่องเที่ยว อรชร, อ้น อ่อน, สุดาเนน และ

อ่านเพิ่มเติม »

ที่เที่ยวฮอยอัน เวียดนาม เดินเล่นชมเมืองเก่า

ที่เที่ยวฮอยอัน ปิดวันเสาร์-อาทิตย์ อยากไปเที่ยวมั้ย? แต่ฉันไม่อยากไปเมืองไทย วันนี้ผมจะพาคุณไปเที่ยวเมืองฮอยอัน เวียดนาม ใช้เวลาบินเพียงชั่วโมงกว่าๆ รู้สึกเหมือนได้บินไปเชียงใหม่ เป็นเมืองมรดกโลกที่มีเสน่ห์ ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศเวียดนาม

อ่านเพิ่มเติม »

เมนู อาหารเวียดนามยอดนิยม ต้องลอง

อาหารเวียดนามยอดนิยม ใครมีแพลนจะไปเที่ยวเวียดนามบ้าง? ไม่ว่าจะเป็นฮานอย ฮอยอัน ดานัง หมีเซิน โฮจิมินห์ หรือดาลัด นอกจากบรรยากาศ ธรรมชาติ

อ่านเพิ่มเติม »

ที่เที่ยวดานัง เวียดนาม กาลครั้งหนึ่งในเมืองชวนฝันของเอเชีย

ที่เที่ยวดานัง เวียดนาม เวียดนามเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เที่ยวได้ไม่ยาก และมีที่เที่ยวมากมาย นอกจากเมืองที่คนไทยรู้จัก. และที่ไปบ่อยเช่น ฮาลองเบย์ ชาปา โฮจิมินห์ และวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักดานัง

อ่านเพิ่มเติม »